เครื่องมือคำนวณค่างวดผ่อนสินเชื่อ (แบบลดต้นลดดอก)

คำนวณค่างวดผ่อนชำระต่อเดือน ดอกเบี้ยรวม และยอดรวมที่ต้องจ่าย

ข้อมูลสินเชื่อ

ตัวอย่าง: บ้าน 2-3 ล้านบาท, รถยนต์ 500,000-1,500,000 บาท

ตัวอย่าง: สินเชื่อบ้าน 2.5-6%, สินเชื่อบุคคล 12-25%

ตัวอย่าง: สินเชื่อบ้าน 20-30 ปี, รถยนต์ 5-7 ปี, สินเชื่อบุคคล 1-5 ปี

ผลการคำนวณ

ค่างวดผ่อนชำระต่อเดือน:

-- บาท

ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมด:

-- บาท

ยอดรวมที่ต้องจ่าย (เงินต้น + ดอกเบี้ย):

-- บาท

รายละเอียดการคำนวณ:

• ระยะเวลาผ่อน: -- เดือน

• อัตราดอกเบี้ยรายเดือน: --%

• สูตรที่ใช้: PMT (Payment Formula)

เครื่องมือนี้คำนวณอย่างไร?

การคำนวณค่างวดผ่อนใช้สูตร PMT (Payment Formula) สำหรับแบบ "ลดต้นลดดอก" (Amortization) ซึ่งเป็นวิธีการคำนวณที่ธนาคารใช้กันทั่วไป

สูตรการคำนวณ:

ค่างวด = เงินต้น × [r(1+r)n] / [(1+r)n - 1]

• r = ดอกเบี้ยรายเดือน (อัตราดอกเบี้ยต่อปี ÷ 12)

• n = จำนวนงวดทั้งหมด (ปี × 12 เดือน)

"ลดต้นลดดอก" คืออะไร?

ลดต้นลดดอก คือ การคำนวณค่างวดที่ในแต่ละงวด ส่วนหนึ่งเป็นดอกเบี้ย ส่วนหนึ่งเป็นเงินต้น ทำให้ยอดคงค้างลดลงเรื่อยๆ จนเป็นศูนย์ในที่สุด

ข้อดีของลดต้นลดดอก:

  • • ดอกเบี้ยรวมน้อยกว่าดอกเบี้ยคงที่
  • • ยอดหนี้ลดลงทุกเดือน
  • • มีความชัดเจนในการวางแผน
  • • เหมาะสำหรับการกู้ระยะยาว

เหมาะกับใคร:

  • • ผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินระยะยาว
  • • ผู้ที่มีรายได้สม่ำเสมอ
  • • ผู้ที่ต้องการลดดอกเบี้ยให้น้อยที่สุด
  • • ผู้ที่วางแผนจะปิดหนี้เร็วขึ้น

ข้อควรรู้ก่อนกู้

คำเตือน: การกู้เงินมีความเสี่ยง ควรวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ และชำระค่างวดตรงเวลาเพื่อไม่ให้เสียเครดิต

DTI Ratio: สัดส่วนหนี้ต่อรายได้ควรไม่เกิน 40% เพื่อความมั่นคงทางการเงิน

เปรียบเทียบข้อเสนอ: ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลายธนาคารก่อนตัดสินใจ

อ่านสัญญาละเอียด: ตรวจสอบค่าธรรมเนียม, การปรับอัตราดอกเบี้ย, และเงื่อนไขการชำระล่วงหน้า

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

คำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับการคำนวณค่างวดผ่อนสินเชื่อ

ลดต้นลดดอก คือ การคำนวณค่างวดที่ในแต่ละงวด ส่วนหนึ่งเป็นดอกเบี้ย ส่วนหนึ่งเป็นเงินต้น ทำให้ยอดคงค้างลดลงเรื่อยๆ จนเป็นศูนย์ในที่สุด

ใช้สูตร PMT (Payment Formula): ค่างวด = เงินต้น × [r(1+r)^n] / [(1+r)^n - 1] โดย r = ดอกเบี้ยรายเดือน และ n = จำนวนงวดทั้งหมด

ลดต้นลดดอก: ค่างวดจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป เพราะยอดคงค้างลดลง ดอกเบี้ยคงที่: ค่างวดเท่ากันทุกงวด แต่สัดส่วนดอกเบี้ยต่อเงินต้นเปลี่ยนแปลง

เครื่องมือใช้สูตการคำนวณตามมาตรฐานสากลที่ธนาคารใช้ แต่ผลลัพธ์เป็นเพียงการประมาณ ควรตรวจสอบเงื่อนไขจากสถาบันการเงินโดยตรง

แนะนำให้ DTI (สัดส่วนหนี้ต่อรายได้) ไม่เกิน 40% เพื่อให้มีเงินเหลือใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และไม่กระทบกับคุณภาพชีวิต

ระยะเวลาสั้น: ดอกเบี้ยรวมน้อย แต่ค่างวดสูง, ระยะเวลานาน: ค่างวดต่ำ แต่ดอกเบี้ยรวมสูง ควรเลือกตามความสามารถในการชำระและเป้าหมายทางการเงิน